การดูดไขมัน (Liposuction) คือ การศัลยกรรมเพื่อเอาไขมันส่วนเกินออกจากร่างกาย ด้วยการใช้เครื่องมือดูดไขมันเฉพาะทาง โดยจะเจาะรูเล็ก ๆ ที่ผิวหนัง แล้วใส่ท่อเล็ก (Cannula) เข้าไปเพื่อดูดเอาไขมันในชั้นใต้ผิวหนังออกมา
การศัลยกรรมดูดไขมันกับ นพ.รัชพล สดาวรรธน์ เป็นการกำจัดไขมันส่วนเกินเพื่อปรับรูปร่างให้สมส่วนและกระชับขึ้น โดยคุณหมอมีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี และได้รับการรับรองจากสมาคมศัลยกรรมตกแต่งทั้งในไทยและต่างประเทศ
จุดประสงค์ของการดูดไขมัน
- ลดสัดส่วนเฉพาะจุด เช่น ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง เอว คาง หรือหลัง
- ปรับรูปร่างให้กระชับ เข้ารูป
- ใช้ไขมันที่ดูดออกมาเติมส่วนอื่น เช่น แก้ม ร่องแก้ม หน้าผาก หรือสะโพก (Fat Transfer)
❗การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนัก แต่เป็นการจัดการกับไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด
เทคนิคการดูดไขมันที่คุณหมอรัชพลใช้
คุณหมอรัชพลเลือกใช้เทคนิคที่ทันสมัยและปลอดภัยในการดูดไขมัน
1. Vaser Liposuction
- ใช้คลื่นอัลตราซาวด์ในการสลายไขมัน
- ช่วยลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อรอบข้าง
- ฟื้นตัวเร็ว และผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ
เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มีไขมันสะสมในบางบริเวณที่ลดด้วยวิธีธรรมชาติได้ยาก
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปร่างให้สมส่วนและกระชับขึ้น
- ผู้ที่มีสุขภาพดีและไม่มีโรคประจำตัวที่เป็นอุปสรรคต่อการผ่าตัด
การดูแลหลังการดูดไขมัน
- สวมชุดกระชับสัดส่วนตามคำแนะนำของแพทย์
- หลีกเลี่ยงการออกแรงหรือยกของหนักในช่วงแรก
- ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัดเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
บริเวณที่นิยมดูดไขมัน
- หน้าท้อง
- เอวและสะโพก
- ต้นขา ต้นแขน
- เหนียงใต้คาง
- หลัง
วิธีการดูดไขมัน (เทคโนโลยีต่าง ๆ)
1. Conventional Liposuction (แบบดั้งเดิม)
- ใช้แรงมือดูดออก
- เจ็บตัวมาก ฟกช้ำเยอะ ฟื้นตัวยาว
2. Vaser Liposuction
- ใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวด์ละลายไขมันก่อนดูด
- เจ็บน้อย บาดเจ็บเนื้อเยื่อรอบข้างน้อย
- ผิวกระชับมากกว่าแบบธรรมดา
3. BodyTite / J-Plasma
- ใช้คลื่น RF หรือพลังงานพลาสมาช่วยกระชับผิวร่วมกับการดูดไขมัน
- เหมาะกับคนที่ต้องการลดไขมัน + ผิวตึงขึ้น
ข้อดีของการดูดไขมัน
- รูปร่างกระชับ ชัดเจนขึ้นในทันที
- กำจัดไขมันส่วนเกินเฉพาะจุดที่ออกกำลังกายไม่ลด
- ไขมันที่ดูดออกสามารถนำไปเติมใบหน้า หรือสะโพกได้ (Fat Grafting)
ข้อจำกัดและความเสี่ยง
- ไม่ใช่วิธีลดน้ำหนักสำหรับคนอ้วนมาก
- อาจมีอาการบวม ช้ำ เจ็บในช่วงแรก
- เสี่ยงติดเชื้อ, ผิวไม่เรียบ, คลื่นหรือรอยบุ๋ม (หากทำโดยแพทย์ไม่มีความชำนาญ)
- จำเป็นต้องใส่ชุดกระชับ 1–3 เดือนหลังดูดไขมัน
เหมาะกับใคร?
- ผู้ที่มี น้ำหนักตัวคงที่ แต่มีไขมันสะสมเฉพาะจุด
- ผู้ที่ ต้องการหุ่นกระชับ และมีผิวหนังที่ยืดหยุ่นพอ
- ไม่เหมาะกับผู้ที่มีโรคประจำตัวบางประเภท หรือภาวะเลือดแข็งตัวผิดปกติ